กสทช. หน้าเสีย ออกกฎบังคับ3ค่ายมือถือ ห้ามกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงินนิ่ง ขณะที่ค่าโทรศัพท์ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์/นาที และต้องลงทะเบียนหมายเลขยังคงเดิม ไร้การตอบรับ ด้าน 3ค่ายแจงติดเชิงเทคนิค หลังลงพื้นที่ตรวจสอบย่านเซ็นทรัลเวิร์ล…
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นายฐากร ตัณฐสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ร่วมกับ นายสุทธิพล ทวีชัยการ กสทช.ด้านกฏหมาย ตรวจสอบผลการบังคับใช้ประกาศ กสทช.ที่ห้ามไม่ให้บัตรเติมเงินโทรศัพท์กำหนดวันหมดอายุทุกมูลค่า ค่าโทรศัพท์ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์และต้องให้ลงทะเบียนหมายเลยโทรศัพท์ในระบบเติมเงิน หรือ พรีเพด ซึ่งมีผลบังคับใช้วันนี้(18 ม.ค.) เป็นวันแรก บริเวณศูนย์ให้บริการของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ว่า จากการตรวจสอบทั้งเอไอเอส ดีแทคและทรู ยังไม่ทำตามประกาศ กสทช.ทั้ง 3 เรื่องได้ 100% แต่ได้พยายามแก้ไขปรับปรุงระบบทั้งหมดอยู่เนื่องจากติดขัดปัญหาทางด้านเทคนิค และจะนำคำชี้แจงจากภาคเอกชนไปพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแม้ทั้ง 3 ผู้ให้บริการจะไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศ กสทช.ได้ แต่ได้มีโปรโมชั่นต่างๆในการเพิ่มและขยายระยะเวลาวันใช้งานในโทรศัพท์ให้ผู้บริโภคระหว่างการปรับปรุงระบบเทคนิค
ส่วนการตรวจสอบวันหมดอายุของบัตรเติมเงิน ด้วยการซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์แบบเติมเงินและบัตรเติมเงินโทรศัพท์ค่ายเอไอเอส ดีแทคและทรูแล้วเติมเงินเข้าสู่ระบบ ยังพบว่ามีการกำหนดระยะเวลาวันหมดอายุของยอดเงินในระบบเช่นเดิม เนื่องจากทั้ง 3 ค่ายมือถือ ชี้แจงว่า ติดปัญหาทางเทคนิคและอยู่ระหว่างการดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศ กสทช. ขณะที่การลงทะเบียนซิมการ์ดก็ยังไม่ดำเนินการ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ลงทะเบียนเก็บข้อมูลได้ ส่วนอัตราค่าบริการที่ต้องไม่เกิน 99 สตางค์ ซึ่งบังคับใช้เอไอเอสและดีแทคโดยเอกชนแจ้งว่าได้กำหนดค่าโทรไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาทีแล้ว
เลขาธิการ กสทช. กล่าวต่อว่า เบื้องต้นแม้ทั้ง 3 ผู้ให้บริการจะไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศ กสทช.ได้ แต่ได้มีโปรโมชั่นต่างๆในการเพิ่มและขยายระยะเวลาวันใช้งานในโทรศัพท์ให้ผู้บริโภคระหว่างการปรับปรุงระบบเทคนิค ส่วนค่าปรับที่ภาคเอกชนยังไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศ กสทช.ได้นั้น จะยังเพิ่มขึ้นตามกฏหมาย โดยล่าสุดเมีมูลค่ารวมกว่า 70 ล้านบาท อีกทั้ง จะตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเพิ่มค่าปรับทางปกครองแก่เอกชนในกรณีดังกล่าวในวันที่ 21 ม.ค.นี้
ที่มาของข้อมูลจาก 
